เปลี่ยนเรือดำน้ำ เป็นเรือฟริเกต “เศรษฐา” ยันเจรจาแล้ว ย้ำ เดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต

เปลี่ยนเรือดำน้ำ เป็นเรือฟริเกต “เศรษฐา” ยันเจรจาแล้ว ย้ำ เดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต

“นายกฯ เศรษฐา” เผย กรณีเปลี่ยนเรือดำน้ำ เป็นเรือฟริเกต ยืนยันมีการเจรจาแล้วด้วยบรรยากาศที่ดี สั่งติดตาม “เสี่ยแป้ง นาโหนด” นักโทษหลบหนี ใครมีเอี่ยวเอาผิดถึงที่สุด ย้ำ เดินหน้านโยบายดิจิทัลวอลเล็ต

เวลา 15.00 น. วันที่ 23 ตุลาคม 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงข่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉินความไม่สงบในอิสราเอล-กาซา ณ กระทรวงการต่างประเทศ โดยในช่วงหนึ่งได้ตอบคำถามกรณีการจะเปลี่ยนเรือดำน้ำ เป็นเรือฟริเกต ว่า ขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเมื่อมีข้อมูลครบแล้วค่อยเจรจาดีกว่า เชื่อว่าเป็นข่าวดีและมีความคืบหน้าไปได้ด้วยดี ต้องให้เกียรติกระทรวงกลาโหม ให้เวลาทำงาน 

“ไปเจรจามาแล้ว ยืนยันว่ามีการพูดคุยกันด้วยบรรยากาศที่ดี คอยอีกสักประเดี๋ยวนึงให้มีความคืบหน้าจริงๆ ให้มันชัดเจนจริงๆ ดีกว่า” เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่าประเทศไทยจะเสียเปรียบใช่หรือไม่ นายเศรษฐา ตอบสั้นๆ ว่า “ไม่ครับ” 

ส่วนเรื่องประเด็นนโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท นายกรัฐมนตรี ระบุว่ายังคงยืนยันในนโยบาย ขณะนี้กำลังปรับแต่งนโยบายในเรื่องที่มาที่ไปของเงิน วิธีการใช้ต่างๆ ขอให้มีการประชุมคณะอนุกรรมการ และคณะกรรมการก่อน แล้วจึงจะแถลงให้ทราบ เมื่อถามต่อไปว่าวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 ประชาชนจะได้รับข่าวดีตามที่เคยพูดไว้ใช่หรือไม่ นายเศรษฐา ตอบว่า เดี๋ยวจะมีการแถลง

ขณะที่กรณี นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ เสี่ยแป้ง นาโหนด นักโทษชายที่หลบหนีขณะเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราชนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า มีการกำชับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไปแล้ว รวมถึง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งดูแลกรมราชทัณฑ์ ต้องไปสืบให้ได้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร และไม่ว่าใครทำผิดก็ต้องเอาผิดถึงที่สุด เพราะเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง.

แหล่งที่มา

About The Author

Scroll to Top