“พิพัฒน์” เผย มีแรงงานไทยแจ้งความประสงค์ต้องการกลับไปทำงานอิสราเอลหลังเหตุการณ์สงบแล้ว 424 คน ส่วนผู้ที่ต้องการทำงานในไทย ยืนยัน มีตำแหน่งงานว่างจากทั่วประเทศรองรับ
วันที่ 23 ตุลาคม 2566 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ตามที่กระทรวงแรงงานได้สอบถามข้อมูลกับแรงงานไทยที่ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบในอิสราเอล เมื่อเดินทางกลับมายังภูมิลำเนา พบว่า มีแรงงานไทยแจ้งความประสงค์ต้องการกลับไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลอีกครั้งหลังเหตุการณ์สงบ จำนวน 424 คน และไม่ต้องการกลับไปทำงานอีก 495 คน ที่เหลืออีกจำนวน 76 คน ยังไม่แน่ใจ จากจำนวนแรงงานไทยที่รับแจ้งทั้งหมด 995 คน โดยจะนำข้อมูลไปดำเนินการเกี่ยวกับการจัดหางานต่อให้โดยเร็วที่สุด ขณะนี้มีแรงงานไทยเดินทางกลับมาแล้วกว่า 3,000 คน มีแรงงานไทยหลายรายกังวลเรื่องการทำงาน บางส่วนมีความประสงค์จะกลับไปทำงานที่อิสราเอลอีกครั้ง บางรายอยากจะไปทำงานที่ประเทศอื่น และมีบางกลุ่มต้องการหางานทำในประเทศ
นายพิพัฒน์ กล่าวต่อไปว่า ขอให้แรงงานที่กลับจากอิสราเอล แจ้งความประสงค์มาที่กรมการจัดหางาน ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด จะได้รวบรวมจำนวนความต้องการแรงงานที่ประสงค์จะเดินทางกลับไปทำงานที่อิสราเอล เพื่อดำเนินการต่อภายหลังจากภาวะความไม่สงบในอิสราเอลได้สิ้นสุดลงแล้ว รวมถึงการไปทำงานในประเทศอื่นๆ เช่น เกาหลีใต้ ด้วย ส่วนผู้ที่ต้องการทำงานในประเทศไทย ก็มีตำแหน่งงานว่างจากทั่วประเทศรองรับ หรือหากต้องการฝึกทักษะฝีมือ สามารถติดต่อได้ที่สถาบันและสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานที่ตั้งอยู่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อเข้ารับการฝึกทักษะด้านอาชีพเสริม รองรับในช่วงการเปลี่ยนผ่านงาน จะได้มีอาชีพ มีรายได้ สามารถเลี้ยงครอบครัวได้
ทางด้าน นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวเสริมว่า ในส่วนของความคืบหน้าการช่วยเหลือสิทธิประโยชน์จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ ได้รับรายงานว่า ขณะนี้มีแรงงานยื่นคำร้องขอรับสิทธิประโยชน์จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค รวม 819 คน วินิจฉัยสั่งจ่ายไปแล้ว 364 คน คนละ 15,000 บาท คิดเป็นเงินกว่า 5,460,000 บาท
ทั้งนี้ แรงงานไทยที่กลับจากอิสราเอล สามารถเขียนคำร้องขอรับเงินสิทธิประโยชน์จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ ได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดที่อยู่ในภูมิลำเนา โดยเบื้องต้น ทุกคนที่เป็นสมาชิกกองทุนฯ และยังอยู่ในการคุ้มครอง จะได้รับเงินกรณีประสบปัญหาต้องเดินทางกลับประเทศไทยเนื่องจากภัยสงคราม คนละ 15,000 บาท ซึ่งกระทรวงแรงงานจะรีบดำเนินการ เพื่อให้แรงงานไทยทุกคนได้รับสิทธิประโยชน์โดยเร็วที่สุด.